นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวถึงการเข้าร่วมกับงาน Food & Hospitality Thailand 2024 ว่า สมาคมและสมาชิกของสมาคมพร้อมเข้าร่วมงานนี้อย่างเต็มที่ โดยนอกจากการนำสมาชิกเข้าร่วมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) กับผู้จัดแสดงสินค้าภายในงานแล้วร้านอาหารยุคใหม่ต้องการเรียนรู้เรื่องแพลทฟอร์ม Social Media ต่างๆ สมาคมจะจัดฝึกอบรมการเทคนิคการทำตลาดและการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร โดยจะสอนการนำเสนอและผลิตสื่อเพื่อเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง TikTok เป็นการอบรมฟรี และผู้ที่สมัครก่อน 100 คนแรก จะได้รับอุปกรณ์กล่องสตูดิโอถ่ายภาพพร้อมฉาก 6 สีอีกด้วย

ทั้งนี้ตนอยากให้ผู้ประกอบการหันมาสนใจพัฒนาศักยภาพใช้เทคโนโลยีในการทำให้ร้านของตัวเองอยู่ในฐานข้อมูลบนโลกออนไลน์มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสามารถทำได้ด้วยตัวเองไม่ยากจนเกินไปและใช้ค่าใช้จ่ายน้อย โดยทางสมาคมฯ ก็พร้อมช่วยเหลือในส่วนนี้ สมาคมยังเตรียมโครงการมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานร้านอาหารคุณภาพและรสชาติอร่อยรับรองโดยสมาคมภัตตาคารไทยอีกด้วย เริ่มที่ร้านอาหารขนาดกลางในกรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียงก่อนจะขยายไปทั่วประเทศ และจะร่วมกับ ททท. ในการแนะนำร้านเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น

นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวถึงความร่วมมือกับการจัดงาน Food & Hospitality Thailand นั้น ทางสมาคมฯ ได้ร่วมจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 30 ถือเป็นงานประจำปีที่คนในธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมมารวมตัวกันมากที่สุด

โดยแต่ละปีสมาคมฯ และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้จัดงาน จะมีการนำเสนอแนวโน้มและทิศทางของธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารและธุรกิจบริการ เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปพัฒนาและปรับใช้กับธุรกิจ ส่วนกิจกรรมไฮไลท์ของสมาคมฯ ที่จะจัดขึ้นภายในงาน Food & Hospitality Thailand 2024 นั้น นอกจากการประชุมใหญ่ประจำปีแล้ว ยังมีงานสัมมนาสำคัญในหัวข้อ การท่องเที่ยว 2024 และก้าวไปสู่อนาคต: วิสัยทัศน์สู่ความสำเร็จ โดยคุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ Smart Tourism Talk: พลิกโฉมการท่องเที่ยว เพิ่มศักยภาพด้วยเทคโนโลยี การจัดการแข่งขันสุดยอดบาร์เทนเดอร์ Thailand Hotel Bartenders’ Championships 2024 ฯลฯ จึงอยากเชิญชวนผู้ประกอบการและผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า การจัดงาน Food & Hospitality Thailand 2024 จึงเป็นอีกส่วนที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวได้เตรียมตัวรับกับนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นปลายปีต่อเนื่องจนถึงปีหน้า เนื่องจากในงานฯ มีการรวมสินค้า บริการ และโซลูชั่น ทั้งผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบอาหารพรีเมี่ยม นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการบริการ ตลอดจนโซลูชั่นที่ช่วยพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการและผู้สนใจในธุรกิจภาคการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

งานฯ ในครั้งนี้งานครบรอบปี 30 ที่ยังคงได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพันธมิตรกว่า 20 องค์กรรวมถึงยังเป็นครั้งแรกที่ 2 งานแสดงสินค้าใหญ่ระดับเอเชียจากประเทศจีนอย่าง Hotelex Thailand และ Hotel & Shop Plus Thailand มาร่วมจัดในงานครั้งนี้ด้วย ดังนั้นจึงทำให้เกิดการรวมจุดเด่นของทั้ง 3 งานไว้ด้วยกัน งานปีนี้จึงมีขนาดใหญ่ขึ้นและได้ยกระดับเป็นงาน Thai Tourism & Hospitality Week เพื่อให้ครอบคลุมทุกส่วนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร การบริการ สปา ค้าปลีก ฯลฯ เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังคงครองอันดับต้นของโลกได้อย่างต่อเนื่อง

ภายในงานฯ ประกอบด้วยโซนจัดแสดงสินค้า 8 โซน ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม (Food & Drinks) คาเฟ่และเบเกอรี่ (Café & Bakery) เครื่องใช้สำหรับธุรกิจบริการ (Hospitality Style) เทคโนโลยีสำหรับธุรกิจบริการ (Hospitality Technology) อุปกรณ์สำหรับธุรกิจอาหาร (Foodservice Equipment) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Sips & Spirits) ร้านค้าปลีก (Shop & Retail) อุปกรณ์และเครื่องใช้สำหรับทำความสะอาด (Cleaning Supplies & Equipment) และโซนพิเศษการจัดแสดงและให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไวน์ คราฟต์เบียร์นานาชาติ และสุราพื้นบ้าน

โดยมีบริษัทชั้นนำของโลกนำสินค้ามาร่วมจัดแสดงกว่า 3,000 แบรนด์ จากกว่า 30 ประเทศ พร้อมทั้งยังมีกิจกรรม สัมมนา Workshop และการแข่งขันระดับประเทศร่วมอยู่ในงานมากกว่า 50 รายการ ทำให้คาดว่าปีนี้น่าจะมีผู้ประกอบการไทยและภูมิภาคเข้าร่วมงานกว่า 30,000 คน

งาน Food & Hospitality Thailand 2024 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 สิงหาคม 2567 ณ ฮอลล์ 1-4 ชั้น G  ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจข้อมูลรายละเอียดการจัดงานสามารถเข้าชมและติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.fhtevent.com  Facebook : Food & Hospitality Thailand

ใส่ความเห็น

You missed

ครั้งแรกในไทย! จูนเหยา เปิดตัว “JY AIR” ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ผสมผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะและความยั่งยืน