ประภาวดี เผยว่า บริษัทได้ดำเนินธุรกิจในหลายโมเดล เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ( Supermarket ) ,เมก้ามอลล์ ( Mega Mall ) และ คอนวีเนียน สโตร์ ( CVS ) โดยเป็นการร่วมทุนของเกาหลีและลาวในนาม “Kolao Group” ประมาณ 1 ปีเศษ ขณะนี้ผลการดำเนินงานทางธุรกิจเป็นไปด้วยดี โดยมีสาขาส่วนใหญ่อยู่ในแขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และกำลังขยายออกไปอีกในหลายแขวงใน สปปลาว
จุดเด่นของ KOKKOK Mart คือ มีบริการครบวงจร ทั้ง Hard Line , Home Line , Fresh Food และ Non Food โดยมีผลิตภัณฑ์นำเข้าทั้งจากไทยและทั่วโลก มากกว่า 60,000 รายการ จากหมวดหมู่และแบรนด์ต่างๆ รวมถึงโซนตลาดสดอันเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานระหว่าง เกษตรกร ชุมชน ร้านชั้นนำในเวียงจันทน์ เพื่อสร้างความสะดวกสบาย อิ่ม จบ ครบ ในที่เดียว รวมถึงสนับสนุนและเพิ่มโอกาสทางการตลาดทั้งหมดสำหรับผู้ขาย เจ้าของผลิตภัณฑ์ ผู้เช่าในและต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของยอดขายของคู่ค้าและบริษัท
นอกจากนี้ยังมีส่วนธุรกิจ F&B ได้แก่ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร สแน็คบาร์ และการช้อปปิ้งออนไลน์ผ่าน KOKKOK M Application ตลอดบริการรถ KOKKOK Move หรือรถสามล้อไฟฟ้าเพื่อรับส่งผู้โดยสาร ในแขวงเวียงจันทน์ เเละ KOKKOK Express รถรับส่งของทั้ง สปป.ลาว
KOKKOK Mart มีการขยายเครือข่ายในลักษณะแฟรนไชส์ในรูปแบบ Mini Mart (CVS) โดยเปิดบริการแล้ว 45 สาขา ทั้งหมดอยู่ในเวียงจันทน์ อย่างไรก็ตามเตรียมแผนขยายสาขาในสิ้นปี 2024 จำนวน 130 สาขา เช่นในสะวันนะเขต 24 สาขา หลวงพระบาง 10 สาขา วังเวียง 5 สาขา เป็นต้น โดยตั้งเป้าขยายเป็น 2,000 สาขาภายใน 5 ปี
จุดเด่นของบริษัทคือการทำราคาสินค้าได้ต่ำกว่าคู่แข่งหลากหลาย จากการบริหารจัดการต่างๆ และบริการ โดยมีพนักงานกว่า 660 คน บริษัทยังได้เข้าเทคโอเวอร์ J Mart ซึ่งเป็นโลคอลแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่มีจำนวนกว่า 10 สาขา โดยมีพนักงาน 480 คน
KOKKOK Mart ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย ที่มีความสนใจขยายช่องทางจัดจำหน่าย มาสู่ตลาดลาว โดยขณะนี้บริษัทได้นำแบรนด์อาหารที่มีศักยภาพจำนวนมากของไทย เตรียมเข้ามาเปิดสาขาในลาว โดยบริษัทพร้อมอำนวยความสะดวกด้านการเข้าลงทุนและสิทธิพิเศษทางภาษีอากรต่างๆ ขณะนี้ได้เจรจากับแบรนด์ร้านอาหารต่างๆ เช่น AKA , On the Table , เขียง , Coffee Club , ลาวญวน เป็นต้น KOKKOK Mart ตั้งเป้านำอาหารอร่อยจากทั่วโลกมาอยู่ที่นี่ ภายใต้รีเทลที่อิ่มอร่อย ครบจบในที่เดียว
สำหรับประภาวดี กุวสาร นับเป็นหญิงไทยที่มีประสบการณ์ด้านรีเทลกว่า 23 ปี และเข้ามาเซ็ทอัพเปิดธุรกิจต่างๆ ในลาวได้ประมาณ 8 ปี ด้วยมุมมองแม้เป็น Expat แต่เข้าใจวัฒนธรรมและความต้องการของลูกค้า เข้าใจจุดอ่อนจุดแข็ง การเข้าถึงพนักงาน challenge หาอะไรใหม่ๆ
“เรามีโปรแกรมการฝึกอบรมที่ดีที่สุดและโอกาสในเส้นทางอาชีพให้พนักงาน มอบบริการที่ดีที่สุดด้วยความประหลาดใจให้กับลูกค้าของเรา ใช้เทคโนโลยีและระบบธุรกิจอัจฉริยะเพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจของเรา นี่คือองค์ประกอบของความสำเร็จ”
ประภาวดี กล่าวถึงการทำงานในต่างประเทศว่า การปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญ บริษัทต้องการเรา เราก็ต้องการพนักงานที่ดี ต้องการลูกค้า บางครั้งเราอาจจะเดินเร็วไป พนักงานตามไม่ทัน เราก็จะต้องเดินช้าลง แล้วปรับให้เขาก้าวเร็วขึ้น เราเป็นมิตรกับชุมชน เป็นมิตรกับ Partner ธุรกิจค้าปลีกต้องลงรายละเอียดมาก แม้อาจจะต้องใช้เวลามาก แต่ก็ต้องก้าวให้ทัน การที่เราประสบความสำเร็จทุกวันนี้ ไม่ได้มาจากตัวคนๆ เดียว แต่มีทีม Support ที่ดี
“ยิ่งไปทำงานในต่างประเทศ เราต้องศึกษาเขาให้รอบคอบ โอกาสของคนไปทำงานต่างประเทศมีสูงมาก แต่เราต้องฝึกปรือตัวเองตลอดเวลา ขอให้คุณกล้า เชื่อว่าโอกาสอยู่ไม่ไกล”