ตามที่ปรากฏภาพในโลกโซเชียลมีเดียตามแพลตฟอร์มต่างๆ ที่มีการเผยแพร่ภาพและกล่าวถึงกิจกรรมล่องห่วงยางแม่น้ำปาย อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่ากำลังเป็นกระแสโด่งดังและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างประเทศที่มีจำนวนหลายร้อยคนร่วมกิจกรรมดังกล่าว นั้น  

ว่าที่ร้อยตรีภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวไม่ใช่ภาพเก่า แต่เป็นกิจกรรมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจากการลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการและได้ติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวมาโดยตลอด พบว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในปี 2565 มีสถานการณ์ขยายตัวมากขึ้นกว่าสถานการณ์ปกติในปี 2562 โดยในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวประมาณ 1.55 ล้านคนครั้ง ซึ่งปี 2562 มีผู้เยี่ยมเยือนประมาณ 1.42 ล้านคนครั้ง และปัจจุบันเริ่มมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 15-20 % ซึ่งคาดว่าหากไม่มีสถานการณ์อื่นมากระทบ จะมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศกลับขึ้นมาเป็นสัดส่วน 35-40% เหมือนในอดีต ส่วนในปี 2566 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงปัจจุบันมีแนวโน้มการขยายตัวของนักท่องเที่ยวสูงขึ้นมากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยประมาณ 62.62 % ซึ่งตามปกติในเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม ของทุกปีนักท่องเที่ยวจะลดลง เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น รวมทั้งปัญหาหมอกควันไฟป่า แต่ในปี 2566 นี้ สถานการณ์หมอกควันไฟป่าไม่รุนแรง ประกอบกับมีฝนตกในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้สภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก และอุณหภูมิยังเย็นสบายตลอดทั้งวัน และพบว่านักท่องเที่ยวชะลอการวางแผนเดินทางออกนอกพื้นที่จึงยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและมีความคึกคัก ทำให้ธุรกิจห้องพัก ธุรกิจรถเช่า ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจจำหน่ายสินค้าที่ระลึก และถนนคนเดินยังมีความคึกคัก นอกจากนี้แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมได้แก่ กองแลนหรือปายแคนย่อน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาชมทุกวันในช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของนายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เป็นผู้ริเริ่มสร้างการรับรู้และส่งเสริมให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็น “ตะวันตกสุดแดนสยาม” (Maehongson the Westernmost Province of Thailand. หรือ Maehongson the last sunset.)

ผอ.ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอนยังกล่าวว่า สำหรับในช่วงฤดูร้อน ได้มีการหารือกับผู้ประกอบการ  สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวปาย ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐ-ภาคเอกชน ในการเตรียมปรับแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่อเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ตาม Theme 365 วันมหัศจรรย์เมืองไทย โดย ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน ร่วมกับภาคีเครือข่ายตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดจัดแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน ภายใต้ “โครงการแม่ฮ่องสอน ผ่อนคลาย” ซึ่งนำจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมาเป็นจุดขาย ผนวกกับ Food (อาหารท้องถิ่น) และ Festival (กิจกรรม เทศกาล งานประเพณี) ดึงจุดแข็งให้เป็นจุดขาย ประกอบด้วย การท่องเที่ยวในเชิงอาหารซึ่งมีความหลากหลายของอาหารท้องถิ่น และชาติพันธุ์ รวมทั้งอาหารจากนานาชาติที่แทบจะมีครบในอำเภอปาย รวมทั้งสถานประกอบการด้านสุขภาพและความงาม เช่น สปา ประกอบกับการนำจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ในเชิงวัฒนธรรม เช่น งานประเพณีปีใหม่ของชาติพันธุ์ที่นิยมจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม รวมทั้งงานประเพณีปอยส่างลองหนึ่งเดียวในโลก นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่สนับสนุน ได้แก่ งานประเพณีแห่และสรงน้ำพระของอำเภอปายที่จะจัดขึ้นในวันที่ 13 เมษายน 2566 นี้ และยังมีกิจกรรมที่สร้างขึ้นใหม่ เช่น งานวันไหลสงกรานต์ที่จะจัดขึ้นครั้งแรกในอำเภอปาย วันที่ 20-21 เมษายน 2566 โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น กิจกรรมล่องห่วงยางแม่น้ำปาย กิจกรรมจัดโซนนิ่งถนนคนเล่นน้ำ อุโมงค์น้ำ การจำหน่ายอาหารพื้นเมืองสินค้าของที่ระลึกพื้นเมือง เชื่อมโยงกับกิจกรรมถนนคนเดิน ซึ่งจะทำให้สามารถดึงให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวและมีระยะเวลาพำนักในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น สร้างโอกาสในการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวและกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนต่างๆ ลดความเหลื่อมล้ำ และลดปัญหาการว่างงานหรือย้ายถิ่นฐานไปทำงานในเมืองหลัก ตามนโยบายของรัฐบาล โดยกำหนดพื้นที่อำเภอปายเป็น Hub ของการท่องเที่ยว และกระจายตัวไปตามพื้นที่ต่างๆ เนื่องจากความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว ทั้ง น้ำตก น้ำพุร้อน บ่อน้ำแร่ จุดชมวิว และมีกิจกรรมมากมาย ซึ่งจะตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่ม Digital nomad และกลุ่มทำงานแบบ Workation หรือกลุ่มทำงานแบบ Hybrid เข้ามาท่องเที่ยวพร้อมทำงานอยู่ในพื้นที่อำเภอปายมากขึ้น และมีระยะการพำนักยาวนานมากขึ้น

สำหรับกิจกรรมล่องห่วงย่างแม่น้ำปาย ที่กำลังเป็นกระแสนี้ นับว่าเป็นกิจกรรมที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและมีการกระจายรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพให้คนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี โดย ทาง ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน ได้เคยมีการทดสอบเสนอขาย เมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมาโดยเสนอขายเชื่อมโยงกับ “เทศกาลชิมข้าวเหนียวมะม่วง” ในถนนคนเดินปาย และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีตลอดมา จนในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ได้เกิดมีภาพปรากฏในกระแสโซเชียลมีเดียมากมาย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศนิยมใช้บริการจำนวนมาก จนทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลในหลายด้าน ซึ่ง ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านปกครอง ด้านความมั่นคง ด้านผู้ประกอบการ และผู้เกี่ยวข้อง มาประชุมชี้แจงทำความเข้าใจเพื่อให้เกิดแนวทางการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 โดยมีข้อตกลงร่วมกันว่า ผู้ประกอบการต้องดำเนินการจดทะเบียบธุรกิจนำเที่ยวให้ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีการทำประกันอุบัติเหตุตามที่กฎหมายกำหนด ผู้ประกอบการต้องดูแลความปลอดภัย รวมทั้งงดจำหน่ายจ่ายแจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างทำกิจกรรม รวมทั้งต้องมีการจัดเก็บขยะรักษาความสะอาดของพื้นที่ ตลอดจนผู้ประกอบการต้องแจ้งนักท่องเที่ยวให้สวมใส่เสื้อผ้ามิดชิดรัดกุมเมื่อเข้าพื้นที่ชุมชนและศาสนสถานต่าง ๆ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดีมาโดยตลอด และเป็นกิจกรรมเสนอขายนักท่องเที่ยวจนได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  

ใส่ความเห็น

You missed

ครั้งแรกในไทย! จูนเหยา เปิดตัว “JY AIR” ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ผสมผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะและความยั่งยืน