วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2566 เวลา 14.30 น. ณ ห้องประชุมสิงหนาท ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน จัดประชุมหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องหารือด้านความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่จะเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ตามที่รัฐบาลจีนได้เปิดประเทศภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้คลี่คลายลง ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 โดยได้รับเกียรติจากนายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุม โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย
นายแพทย์ปฐม นวลคำ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน
พ.ต.อ.วรวุฒิ ปานขาว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน
พ.ต.ท. มังกร แสนมา สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน
นายนักปราชญ์ ไชยานนท์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน
นางสาวจิราวดี อ่อนวงศ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน
นายนวรัตน์ ศรีแก้วเลิศ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (สวท.) จังหวัดแม่ฮ่องสอน
นายอรรถเวทย์ สุนทรพานิชกิจ นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
นายภานุเดช ไชยสกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน
นายชัยวิชช์ สัมมาชีววัฒน์ อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอำเภอปาย
ว่าที่ร้อยตรีภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยกาสำนักงาน ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน ทำหน้าที่เลขาฯ การประชุม
นางสาวเขมรัศมิ์ อมรพัชราลักษณ์ พนักงานการตลาด 3 ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน ทำหน้าที่ผู้ช่วยเลขาฯ การประชุม
การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมนัดพิเศษที่มีวัตถุประสงค์หารือและประสานงานด้านความพร้อมการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีน ภายหลังที่รัฐบาลจีนได้ประกาศนโยบายเปิดประเทศ และประชาชนชาวจีนสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ซึ่งนายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อใช้กลไกของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจ ให้พี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการมีรายได้ รวมทั้งกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดี และความสุขความประทับใจในการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทุกชาติทุกกลุ่ม ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้มีการเตรียมความพร้อม และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ภาครัฐและภาคเอกชน สามารถขับเคลื่อนการเปิดการท่องเที่ยวได้ตามปกติ และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพิ่มมากขึ้น และสถานการณ์กลับมาใกล้เคียงกับปีที่มีสถานการณ์ปกติ โดยยังคงรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่มีคดีอาชญากรรมกับนักท่องเที่ยว และไม่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่รุนแรง จากนี้ก็ยังต้องขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อไป และต้องรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนรรม และรักษาทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นเมืองพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Develpment Goal : SDG)
ในที่ประชุม ว่าที่ร้อยตรีภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน ได้นำเสนอภาพรวมสถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมทั้งแนวโน้มโอกาส และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวพบว่า ในปี พ.ศ. 2565 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนประมาณ 1.5 ล้านคนครั้ง และมีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ประมาณ 6.7 พันล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับสถานการณ์ในปีปกติที่ไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด – 19 แต่สัดส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ยังมีเพียง 11.64 % จากเดิมที่มีประมาณ 41 % สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนในปี พ.ศ. 2562 ที่เดินทางมาประเทศไทย ประมาณ 11 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประมาณ 5 แสนล้านบาท เป็นสัดส่วนประมาณเกือบ 10% ของประชากรจีน ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนมีระยะพำนักในไทยประมาณ 5-7 วัน และใช้จ่ายคนละประมาณ 25,000 – 50,000 บาท และมีแนวโน้มขยายตัวในอดีตถึงปีละ 10-15% ต่อปี ส่วนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอปายเป็นหลัก ซึ่งในปี พ.ศ. 2560 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวนประมาณ 38,817 คนครั้ง (+30.52%) และในปี พ.ศ. 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน ประมาณ 43,795 คนครั้ง (+12.82%) และในปี พ.ศ. 2562 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวนประมาณ 44,964 คนครั้ง (+2.67%) ซึ่งพบว่ามีจำนวนมากขึ้นทุกปี และนักท่องเที่ยวชาวจีนถือเป็นตลาดใหญ่และมีแนวโน้มขยายตัวเร็ว-แรง ซึ่ง ททท. ได้ประเมินว่า จากนี้อาจจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคนครั้ง โดยเมืองไทย เป็น 1 ใน 5 ประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวจีนค้นหามากที่สุด รวมทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ เหตุผลที่นักท่องเที่ยวชาวจีนชื่นชอบประเทศไทย เนื่องจากเดินทางไม่ไกล ค่าครองชีพไม่สูง มีความคุ้มค่าเงิน มีความปลอดภัย รวมทั้งมีประวัติศาสตร์และมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมายาวนาน โดยนักท่องเที่ยวชาวจีน นิยมแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมีชื่อเสียง ชื่นชอบรับประทานอาหารอร่อยจากร้านดัง ผ่านการรีวิวหรือแนะนำจากผู้มีอิทธพลในโลกออนไลน์ ชื่นชอบด้านสุขภาพและความงาม รวมทั้งมีการใช้จ่ายสูงทั้งด้านที่พัก อาหาร ของที่ระลึก ด้านสุขภาพความงาม รวมถึงธุรกิจรถเช่า และบริการต่าง ๆ และนักท่องเที่ยวชาวจีนในปัจจุบันเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เดินทางแบบ Free Individual Traveller : FIT. หรือเป็นกลุ่มขนาดเล็ก สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี ใช้เทคโนโลยีในการจ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ อาทิ AirPay WeChat QR Code ฯลฯ และจากการประสานงานกับผู้ประกอบการ และสอดคล้องกับนายชัยวิชช์ สัมมาชีววัฒน์ อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอำเภอปาย ที่แจ้งว่าผู้ประกอบการยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกสัญชาติ และยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีนไม่ได้สร้างผลกระทบเชิงลบต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ รวมทั้งไม่กระทบต่อนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่น การเปิดประเทศจีนครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีที่จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวยังอำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพิ่มมากขึ้น จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจ และทำให้การท่องเที่ยวมีความคึกคักมากขึ้น ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีความพร้อมในการรองรับทั้งด้านแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวมากมาย โดยในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA จำนวน 97 แห่ง และ SHA Plus จำนวน 37 แห่ง มีมัคคุเทศก์รวมทั้งล่ามภาษาจีน จำนวนประมาณ 20 คน พร้อมโครงข่ายการคมนาคมด้วยรถโดยสารประจำทางเส้นทางปาย-เชียงใหม่ (ไป-กลับ) วันละไม่ต่ำกว่า 30 เที่ยว มีสถานพักแรมในอำเภอปาย ไม่ต่ำกว่า 250 แห่ง (3,500 ห้อง) รวมทั้งร้านอาหารไม่ต่ำกว่า 37 แห่ง รวมทั้งธุรกิจรถเช่าและมัคคุเทศก์
ที่ประชุมมีความเห็นพ้องร่วมกันในความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทุกด้าน ทั้งในด้านการให้บริการที่ไม่เอารัดเอาเปรียบ การดูแลความปลอดภัยซึ่งทางตำรวจภูธรจังหวัด มีมาตรการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสถานีตำรวจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน ก็ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่และสายตรวจกระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วทั้งจังหวัด พร้อมกล้อง CCTV คุณภาพสูงที่อำเภอปาย จำนวน 25 ตัว และ โดยมีสายด่วน 1155 สามารถรับแจ้งเหตุได้ทุกภาษาตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังได้มีเครือข่ายอาสาตำรวจท่องเที่ยวที่ช่วยดูแลนักท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอปายอีกหลายนาย ทางด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ก็มีความพร้อมทั้งในสถานพยาบาลโรงพยาบาลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง ประกอบกับสถานการณ์การติดเชื้อฯ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีจำนวนน้อยและไม่รุนแรง มีความสามารถในการรองรับผู้ป่วย สามารถประสานการรับการรักษา หรือการส่งต่อหากมีสถานการ์ฉุกเฉินก็มีบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินรองรับ อาทิ Sky Doctor หรือแม้แต่ Telemedicine เป็นต้น นอกจากนี้ ประชากรในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับวัคซีนเข็มที่สองแล้ว ไม่ต่ำกว่า 70% และยังเตรียมวัคซีนไวรัสโคโรนา 2019 ให้ประชาชน และผู้ประกอบการ สามารถรับบริการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3-4 ได้อย่างเพียงพอ
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ให้ประสานงานและดำเนินการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวให้ครบทุกมิติ ทั้งด้านการบริการที่ประทับใจ การไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว การดูแลสถานที่ท่องเที่ยวสถานบริการให้มีความสะอาด มีความสะดวก รวมทั้งการจัดการของเสีย ตลอดจนด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และถือว่าจังหวัดแม่ฮ่อสอน มีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่โดยขอให้เน้นการประสานงานการบริหารจัดการทรัพยากรต่าง ๆ อย่างคุ้มค่าและเป็นระบบ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก รวมทั้งได้มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะเลานุการคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปประสานงานดำเนินการจัดตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวในระดับอำเภอทุกอำเภอต่อไป ซึ่งจะทำให้การขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเป็นไปได้รวดเร็ว มีความคล่องตัว และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้รวดเร็ว