27 พฤศจิกายน 2565  ได้มีการจัดงานประกาศเชิดชูเกียรติ พ่อดีเด่นแห่งปี  ลูกตัวอย่างดีเด่น บุคคลต้นแบบตัวอย่างแห่งปี ภายใต้โครงการเทิดพระเกียรติองค์ราชัน “ร้อยดวงใจถวายพ่อของแผ่นดิน ตามรอยพระยุคลบาท” ประจำปีพุทธศักราช 2565 พลเอก พิจิตร  กุลละวณิชย์ องคมนตรี ในรัชกาลที่ 9 ประธานอำนวยการโครงการ , พลเอก หม่อมเจ้า จุลเจิม ยุคล ทรงเสด็จเป็นประธานพิธีงานประทานประกาศเกียรติบัตร วิทยฐานะและโล่เกียรติคุณ “ปูชนียบุคคลแห่งชาติ” กินรีทองคำ , พลตรี หม่อมราชวงศ์ วัยวัฒน์  จักรพันธุ์ ประธานในพิธีมอบรางวัล พ่อดีเด่นแห่งปี ลูกตัวอย่างดีเด่น และบุคคลต้นแบบตัวอย่างแห่งปี ณ ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ  จัดโดย โครงการเทิดพระเกียรติองค์ราชัน “รัฐ ราษฎร์ ร่วมใจภักดิ์ ทำความดี คืนคุณแผ่นดิน

            ภายในงานประกาศเชิดชูเกียรติ พ่อดีเด่นแห่งปี  ลูกตัวอย่างดีเด่น บุคคลต้นแบบตัวอย่างแห่งปี ได้มีบุคคลที่ได้รับรางวัลเดินทางเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก และหนึ่งในนั้น นางสาวสิริภา  สัจจเดชะ ผู้ได้รับรางวัล “ลูกตัวอย่างดีเด่น พร้อมกับคุณพ่อ นายสัตยะพล สัจจเดชะที่ได้รับรางวัล “พ่อดีเด่นแห่งปี” ประจำปี 2565

นางสาวสิริภา  สัจจเดชะ ผู้ได้รับรางวัล “ลูกตัวอย่างดีเด่น อายุ 29 ปี จบการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้ไปเรียนต่อหลักสูตร MBA ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล “ลูกตัวอย่างดีเด่น รู้สึกดีใจมากที่โครงการนี้ได้จัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้นมาก ซึ่งในส่วนตัวแล้วปรกติเราเองไม่ได้คาดหวังผลตอบแทนอย่างไรกับการทำความดี ที่เราทำเป็นเรื่องปรกติในชีวิตประจำวันที่เราดำเนินชีวิตตามคำพ่อสอนไว้ เราอยู่ภายใต้ร่มไทรของคุณพ่อที่สั่งสอนแต่เรื่องการกระทำในคุณงามความดี พร้อมกันนี้ ยังอดที่จะกล่าวถึงไม่ได้คือ ในวันนี้คุณพ่อ นายสัตยะพล สัจจเดชะ ก็ได้รับรางวัล “พ่อดีเด่นแห่งปี” ประจำปี 2565 ด้วยเช่นกัน

และอีกรางวัลหนึ่งที่ได้รับคือ “กินรีทองคำ” เป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างสูงเป็นเกียรติแก่เรา ซึ่งเราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า การทำดีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ของมันจะปรากฏขึ้นเอง ขอขอบคุณโครงการนี้ที่เห็นคุณค่าของคน และเราเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้ทำความดีให้กับสังคมค่ะ

นางสาวสิริภา  สัจจเดชะ กล่าวในตอนท้ายว่า “อยากฝากถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เนื่องจากปัจจุบันโลกแห่งโซเชียลได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางกับทุกคน อยากให้ทุกคนช่วยแชร์เรื่องที่เป็นประโยชน์เพื่อช่วยเหลือสังคมส่วนรวมและประเทศชาติ ให้ช่วยกันสร้างสรรค์แต่สิ่งดีมีประโยชน์ให้แก่กันและกันและช่วยกันทำความดีกันต่อไปเพื่อเป็นอนาคตที่ดีแก่ตัวเองและคนรุ่นต่อ ๆ ไป”